วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

พิธีบัพติศมา

    บัพติศมา ในภาษากรีกหมายถึง "การจุ่ม" หรือ "การเข้ามีส่วน"
พิธีบัพติศมานั้นจะทำให้กับผู้ที่ปรารถนาจะละทิ้งวิถีชิวิตแบบเดิมๆและหันมาติดตามพระเจ้า
ดังนั้นแล้วผู้ที่สมควรจะได้รับบัพติศมาก็คือผู้ที่กลับใจใหม่และเต็มใจเชื่อในพระเจ้า
    ดังที่มีข้อพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า

(กิจการ 2:38)
    38 ฝ่ายเปโตรจึงกล่าวแก่เขาว่า จงกลับใจใหม่และรับบัพติศมา ในพระนามแห้งพระเยซูคริสต์สิ้นทุกคน เพื่อพระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของท่านเสีย แล้วท่านจะได้รับพระราชทานพระวิญญาณบริสุทธิ์
(กิจการ 8:36-37)
    36 ครั้นกำลังเดินทางไปก็มาถึงที่มีน้ำแห่งหนึ่ง ขันทีจึงบอกว่า นี่แน่ะ มีน้ำ มีอะไรขัดข้องไม่ให้ข้าพเจ้ารับบัพติศมา
    37 และฟีลิปจึงตอบว่า ถ้าท่านเต็มใจเชื่อท่านก็รับได้ และขันทีจึงตอบว่า ข้าพเจ้าเชื่อว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า

ส่วนผู้ที่ให้บัพติศมาก็คือ "เหล่าสาวกของพระเยซู" 
    ดังที่มีข้อพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า

(มัทธิว 28:18-20)
    18 พระเยซูจึงเสด็จเข้ามาใกล้แล้วตรัสกับเขาว่า ฤทธานุภาพทั้งสิ้นในสวรรค์ก็ดี ในแผ่นดินโลกก็ดีทรงมอบไว้แก่เราแล้ว
    19 เหตุฉนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ ให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์
    20 สอนเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดซึ่งเราได้สั่งพวกเจ้าไว้ นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค

    พิธีรับบัพติศมานั้นจะทำโดยการจุ่มตัวเองลงไปให้มิดน้ำทั้งตัวไม่ใช่เพียงแค่บางส่วนเท่านั้น
ฉนั้นแล้วผู้ที่รับบัพติศมาจะต้องดำเนินชีวิตด้วยการแสวงหาพระเจ้าและเอาใจใส่ต่อสิ่งที่เป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า
    ดังที่มีข้อพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า

(โคโลสี 3:1-3)
    1 ถ้าท่านรับการทรงชุบให้เป็นขึ้นมาด้วยกันกับพระคริสต์แล้ว ก็จงแสวงหาสิ่งซึ่งอยู่เบื้องบนในที่ซึ่งพระคริสต์ทรงสถิตอยู่คือประทับข้างขวาของพระเจ้า
    2 จงเอาใจใส่สิ่งซึ่งอยู่เบื้องบน ไม่ใช่สิ่งซึ่งอยู่ที่แผ่นดินโลก
    3 เพราะว่าท่านได้ตายแล้ว และชีวิตของท่านซ่อนไว้กับพระคริสต์ในพระเจ้า

    เพราะการรับบัพติศมาคือการละทิ้งวิถีชีวิตเดิมๆและหันมาติดตามพระเจ้าแล้ว พวกเราทุกคนที่เชื่อและกลับใจเข้ามาหาพระเจ้าก็จงปฏิบัติตนตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ศึกษาพระคัมภีร์ และที่สำคัญก็คือสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัยมากที่สุด "การสรรเสริญพระเจ้า" 

    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น